18 มิถุนายน 2563
229
ฟังมุมมอง "ดรานนท์ บัวกลาง" ในวันที่วิกฤติโควิด-19 สั่นสะเทือนธุรกิจกลางคืน "ดีเจ" ผู้มอบความสุขด้วยเสียงเพลงมากว่า 25 ปี จึงต้องผันตัวสู่พ่อค้าขายอาหารที่ตลาดนัด ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะเป็นอย่างไรบ้าง? ติดตามเรื่องราวได้ที่นี่
ภาพของผู้คน ทั้งคนไทยและต่างชาติที่คลาคล่ำไปบนถนนข้าวสาร เสียงเพลงที่สร้างความบันเทิงให้กับผู้คนแทบตลอดทั้งค่ำคืน ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ภาพเหล่านั้นกลับไม่มีให้เห็น เหลือแต่ความเงียบเหงา นักท่องเที่ยวหายไป ผู้ประกอบการ ร้านค้า ร้านอาหาร สถานบันเทิง ต้องปิดตัวลงชั่วคราว พนักงานและลูกจ้างหลายรายเข้าสู่สถานภาพตกงาน
ภาพทั้งหมดนี้เป็นผลจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ขยายวงกว้าง ไม่เพียงแต่ในระดับโลก สำหรับประเทศไทยเองก็กินวงกว้างไปหลายจังหวัด พื้นที่ที่เฝ้าระวังหลักๆ หนีไม่พ้นกรุงเทพมหานคร ความรุนแรงของสถานการณ์ที่เพิ่มมากขึ้น สะท้อนจากยอดผู้ติดเชื้อหลักร้อยคนต่อวัน ทำให้รัฐบาลตัดสินใจประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ควบกับเคอร์ฟิว และใช้มาตรการต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามการป้องกันทางด้านสาธารณสุข
ผลจากคำสั่งดังกล่าวเหมือนระเบิดลงลูกใหญ่ เพราะหลายๆ ธุรกิจไม่ทันตั้งตัว หรือมีแผนรองรับใดๆ
“ตอนนั้น.. ไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ไม่มีแผนการอะไรเลย มองอะไรไม่ออก นอกจากคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีอาชีพเสริมหรือมีรายได้เพิ่มเข้ามา นี่คือที่คิด ณ ตอนนั้น อารมณ์มือแปดด้าน” ดีเจป๊อป-ดรานนท์ บัวกลาง บอกเล่ากับกรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ดีเจป๊อป หรือ ดีเจ@BUDDYBEER ผู้ที่ยึดอาชีพนี้มาราว 24-25 ปี และอยู่วงการกลางคืนมาโดยตลอด สะท้อนถึงประสบการณ์ตรงหลังจากสถานบันเทิงถูกสั่งปิด ซึ่งสำหรับตัวเขาเองก็โดนแบบกะทันหัน ทำงานไม่ได้ หรือว่ากันง่ายๆ ก็คือ "ตกงาน"
“แผนรองรับตอนนั้น ผมมองว่าไม่ทันตั้งตัวจริงๆ ไม่มีแผนการอะไรเลย มองอะไรไม่ออก นอกจากคิดว่าจะทำอย่างไรให้มีอาชีพเสริมหรือมีรายได้เพิ่มเข้ามา นี่คือที่คิด ณ ตอนนั้น อารมณ์มือแปดด้าน” ดีเจป๊อป กล่าว
- ผันตัวจาก “ดีเจ” สู่ “พ่อค้าอาหาร”
ดีเจป๊อปเล่าถึงจุดเปลี่ยนสู่อาชีพพ่อค้าอาหารว่า เป็นคนทำกับข้าวเป็น จึงคิดว่าผันตัวจากดีเจมาเป็นพ่อค้าก็ได้ เพราะอย่างน้อยจะได้งัดฝีมือทำอาหารของตัวเองออกมา จึงทดลองทำดู โดยสถานการณ์ ณ ช่วงเวลานั้น ห้างสรรพสินค้าไม่เปิด อะไรก็เปิดไม่ได้ ไปไหนก็ไม่ได้ นอกจากคนที่ต้องทำมาหากิน เนื่องจากคนยังต้องกินอาหาร ต้องบริโภค จึงมองว่าการขายอาหารจะเป็นสิ่งที่รองรับในช่วงขณะนั้นได้
เริ่มต้นจากการขายผ่านเดลิเวอรี่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แรกๆ ลูกค้าคือกลุ่มเพื่อน เมื่อมีการซื้อและแชร์ออกไปในช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆ มีลูกค้าสั่งเข้ามา จึงเริ่มขายดีขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับเพื่อนแนะนำให้ลองขายที่ตลาดนัด จึงผันตัวเองสู่พ่อค้าอาหารที่ตลาดนัด ซึ่งก็ได้รับตอบรับที่ดี
“ความรู้สึกที่ได้จากการทำอาหาร พูดไม่ถูก แต่พอได้ลองทำก็รู้สึกชอบ รู้สึกว่าโอเค เราทำได้และไม่ได้น่าเกลียดเท่าไหร่ ลูกค้าก็โอเคและชมตลอด”
เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่างการเป็นดีเจกับพ่อค้าอาหาร ดีเจป๊อปให้คำตอบที่น่าสนใจว่า “ความแตกต่างระหว่างดีเจกับพ่อค้า คนละฟีล คนละโลกเลย การเป็นดีเจคือให้ความสุขด้วยเสียงเพลง แต่การเป็นพ่อค้าก็ให้ความสุขด้วยรสชาติอาหาร ดีเจกับพ่อค้ามันสวนทางกันแน่นอน แต่ผมมองว่ามันเป็นอาชีพ ทุกสายงานอาชีพมันอยู่ที่ตัวเราเองว่าเลือกจะทำอะไร”
ดีเจป๊อปเล่าต่อว่า วิกฤติครั้งนี้ได้ให้อาชีพใหม่ให้กับเขา และยังเห็นภาพของเพื่อนพ่อค้าแม่ค้าที่เขาเองมองว่าเป็นมือใหม่ทั้งหมดในตลาดแห่งนั้น เพราะอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด และได้พูดกันทำความรู้จักกัน พบว่าบางคนทำงานโรงแรม บางคนมีร้านอาหารเป็นของตัวเองอยู่ต่างจังหวัด หรือบางคนเป็นเถ้าแก่ แต่เปิดร้านไม่ได้ ก็ต้องมาขายอยู่ที่ตลาดนัด
และเมื่อถามว่า หากสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น กิจการต่างๆ กลับมาเปิดได้ จะหวนกลับไปเป็น “ดีเจ” อีกไหม?
เขาบอกว่า “คงต้องคิดดูก่อน หากขายของดีจริงๆ อาจไม่กลับไปเป็นดีเจ วงการกลางคืนไม่ยั่งยืนและฉาบฉวย มองว่าค้าขายดีที่สุด”
- ภาพชัด “การเปลี่ยนแปลงที่ดี” จากโควิด-19
ขณะเดียวกันโควิด-19 ทำให้ “ดรานนท์” เกิดการเปลี่ยนแปลงไป 100% นอกจากได้อาชีพใหม่แล้ว จากเดิมไม่เคยกลับบ้าน อยู่แต่คอนโดมิเนียม วิกฤติครั้งนี้ทำให้เขาได้กลับมาอยู่บ้าน อยู่กับครอบครัว รวมไปถึงเรื่องของการนอน การใช้ชีวิตก็ดีขึ้น รวมถึงเรื่องของสุขภาพที่ดีขึ้นด้วย
“ต้องปรับตัวเยอะ ต้องปรับเปลี่ยนหลายๆ อย่าง รู้ซึ้งเลยว่า ตั้งแต่ทำงานกลางคืน พอมาเจอโควิด-19 เห็นว่าเงินเก็บก็น้อย ไม่พอ มองว่าควรที่จะวางแผนชีวิตให้ดี ต้องมีเงินล่วงหน้า ต้องวางแผนชีวิตล่วงหน้า ไม่ใช่แต่ว่าเดือนนี้หรือเดือนไหน ผมมองว่าล่วงหน้าเป็นปีๆ จะดีที่สุด คิดได้เยอะเลย ตั้งแต่เจอเหตุการณ์ครั้งนี้”
June 18, 2020 at 07:30AM
https://ift.tt/3eeuusW
ผ่ามุมมอง 'ดรานนท์ บัวกลาง' จากดีเจผู้มอบความสุขผ่านเสียงเพลง สู่ 'พ่อค้าอาหาร' - กรุงเทพธุรกิจ
https://ift.tt/3bS8L8L
Bagikan Berita Ini
0 Response to "ผ่ามุมมอง 'ดรานนท์ บัวกลาง' จากดีเจผู้มอบความสุขผ่านเสียงเพลง สู่ 'พ่อค้าอาหาร' - กรุงเทพธุรกิจ"
Post a Comment