DELTA "พิเศษยังไง" ทำไมดีดแตะเพดาน? - efinanceThai

dihyangbagus.blogspot.com
DELTA "พิเศษยังไง" ทำไมดีดแตะเพดาน?

หุ้นเด่นวันนี้

ราคาหุ้น DELTA ดีดแตะซิลลิ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สวนทางกับตลาดหุ้นที่แดงเถือก เพราะพบว่ามีข่าวดีอยู่เพียบ ทั้งเงินบาทที่อ่อนค่าอย่างรวดเร็ว และผลดีจากการเร่งลงทุนระบบสื่อสารโทรคมนาคมมากขึ้น...แต่ยังมีประเด็นอื่นที่หนุนให้หุ้นปรับตัวขึ้นแรงกว่าเพื่อนในกลุ่มอีกหรือไม่? ต้องติดตาม!

*** DELTA ดีดชนซิลลิ่ง...ทำนิวไฮรอบ 1 ปี

ราคาหุ้น บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA วันทำการล่าสุด(10ก.ค.63) หลังจากเปิดตลาดราคาหุ้นก็ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องได้ตลอด จนแตะระดับเพดานสูงสุดของวัน(ซิลลิ่ง)ที่ 69.50 บาท ในช่วงก่อนปิดทำการรอบเช้า ถือเป็นระดับนิวไฮรอบ 1 ปี และสามารถปิดตลาดไปที่ระดับซิลลิ่งของวันคิดเป็นเพิ่มขึ้น 9 บาท หรือ +14.88% ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายเพิ่มขึ้น 516.26% เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ย 5 วันทำการก่อนหน้า

การพุ่งขึ้นของราคาเช่นนี้ทำให้หุ้น DELTA น่าสนใจ แถมยังเป็นการดีดขึ้นไปแตะซิลลิ่งในวันที่ SET ปรับลดลงถึง 15.31 จุด หรือ -1.12% อีกด้วย ขณะที่หุ้นในกลุ่มตัวอื่นๆอย่าง HANA ปรับตัวขึ้น +8.26% KCE +8.37% SVI +4.64% และ SMT +4.92%

*** อะไรทำให้หุ้นอิเลคฯผงาดขึ้นมาได้?

อย่างที่ทุกท่านทราบกันดีอยู่แล้วว่า "หุ้นแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์" ส่วนใหญ่มักจะมีฐานลูกค้าเป็นผู้ประกอบธุรกิจยานยนต์อยู่ในกลุ่มประเทศยุโรป ดังนั้นจากการสำรวจจึงพบว่า มีหลายประเด็นที่เข้ามาหนุนในระยะนี้

เริ่มต้นด้วย แนวโน้มค่าเงินบาทที่อ่อนค่าต่อเนื่อง : ตั้งแต่สิ้นต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วมาก จาก 30.91 บาท/ดอลลาร์ มาเป็น 31.34 บาท/ดอลลาร์เมื่อวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมาสวนทางค่าเงินส่วนใหญ่ เป็นบวกต่อการส่งออกของ DELTA ในรูปแบบเงินดอลลาร์

อีกประเด็นก็คือ การเร่งขยายเครือข่ายโทรคมนาคมของทั่วโลก : บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ดีบีเอสวิคเคอร์ส ระบุว่า DELTA จะได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงหลังโควิด-19 โดยอุปสงค์ Data Center จะเพิ่มขึ้น เพราะเชื่อว่าคนจะทำงานที่บ้าน(WFH)เพิ่มขึ้น ความต้องการใช้เทคโนโลยี ระบบสื่อสารโทรคมนาคม การประชุมออนไลน์ จะสูงขึ้นมากเมื่อเทียบกับก่อนมีโควิด-19

ประเด็นสุดท้ายก็คือ การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ : หลังจากการกลับมาคลายล็อกดาวน์ในหลายประเทศ ทำให้ยอดขายรถยนต์เดือนมิ.ย.63 ในหลายประเทศของยุโรปกลับมาหดตัวน้อยลงจากเดือนก่อนหน้ามาก ถือเป็นสัญญาณฟื้นที่ดี ซึ่ง Forbes รายงานว่ายอดขายรถยนต์ใหม่ในยุโรปตะวันตกเดือนมิ.ย.63 หดตัวลดลงเหลือเพียง -24.8% YoY เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่ลดลงถึง -57.3% YoY

ขณะที่ยอดขายรถยนต์ในจีนเดือนมิ.ย.63 กลับมาโต 13% YoY เพราะความต้องการรถกระบะและรถเพื่อการพาณิชย์อื่นๆที่สูงขึ้น หลังจากที่รัฐบาลอัดฉีดเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

*** ทำไม DELTA ถึงพิเศษกว่ารายอื่น?

ก่อนหน้านี้รัฐบาลฝรั่งเศสและเยอรมันออกมาตรการกระตุ้นวงเงิน 8,000-50,000 ล้านยูโร ให้เงินสนับสนุนประชาชนในการซื้อรถ EV/PHEV เริ่มในเดือนมิย.ถึงปี 64 ทำให้การฟื้นตัวของยานยนต์ไฟฟ้าในยุโรปเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่ง DELTA ได้รับผลประโยชน์มากกว่ารายอื่น เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง และยังเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ชาร์จไฟฟ้าและสถานีชาร์จให้กับรถยนต์ไฟฟ้า

ซึ่งจากการสำรวจยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในหลายประเทศทั่วโลกเดือนมิ.ย.63 ปรับขึ้นสูงอย่างมาก ยิ่งยืนยันถึงแนวโน้มยอดขาย DELTA ได้เป็นอย่างดี โดยในประเทศอังกฤษเดือนมิ.ย.63 ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้า100%(BEV) เติบโตขึ้นถึง +261.8% YoY ปลั๊กอินไฮบริด(PHEV)เติบโต +117% ส่วนรถไฮบริดเติบโต +19.3% ขณะที่รถยนต์เครื่องยนต์สันดาปอย่างดีเซลและเบนซินหดตัวถึง -59.8% และ -39.9% YoY ตามลำดับ

ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ในประเทศเยอรมนีรถยนต์ไฟฟ้า 100% เพิ่มขึ้นมาเป็น 8.4% ของตลาดรถยนต์ทั้งประเทศ จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3.4% และประเทศสวีเดน เปิดเผยยอดขายรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในเดือนมิ.ย.63 เติบโต 86% YoY หลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง

*** ผลงาน Q2/63 ฟื้นเร็วกว่ากลุ่ม กำไรปีนี้ยังโตถึง 16%

บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โนมูระ พัฒนสิน ระบุว่า กำไรของ DELTA ในไตรมาส 2/63 จะฟื้นตัวได้เร็วกว่ากลุ่มมาอยู่ที่ 681 ล้านบาท +8% QoQ และ -30% YoY ซึ่งแนวโน้มกำไรจะเติบโตต่อเนื่องในครึ่งปีหลังอีกจากการเติบโตของกลุ่ม Data center, Telecom infrastructure รับวิถี new normal

บวกกับกลุ่มธุรกิจรถยนต์เริ่มกลับมาหลังมาตรการกระตุ้นการซื้อ EV car ในยุโรป ซึ่งเป็นลูกค้าโดยตรงของ DELTA ทำให้ประเมินกำไรปี 63 ไว้ที่ 3,429 ล้านบาท (+16% YoY)

*** ราคาหุ้นไม่มีอัพไซด์ แต่หากฟื้นแรงจริงอาจคุ้มค่าลงทุน

แม้การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมจะค่อนข้างเร็วกว่าคาด แต่หากอิงจากบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์หลายๆรายพบว่าอัพไซด์เริ่มเหลือน้อยเต็มที แต่ก็อาจมีลุ้นปรับประมาณการขึ้นหากผลงานออกมาดีกว่าคาด

บล.	คำแนะนำ	ราคาเหมาะสม(บ.)
ทิสโก้	ซื้อ	81
โนมูระ พัฒนสิน	ซื้อ	70
ดีบีเอส วิคเคอร์ส	ซื้อ	62
กรุงศรี	ซื้อ	62
ฟินันเซีย ไซรัส	ซื้อ	47