ส่องจีดีพีไทย สำนักไหนให้ต่ำสุด - efinanceThai

dihyangbagus.blogspot.com
ส่องจีดีพีไทย สำนักไหนให้ต่ำสุด

efin Review

ผ่านมากว่าครึ่งปีแล้ว สำหรับเศรษฐกิจปี 63 ที่ช่วงครึ่งปีแรกถูกวิกฤติโควิด-19 ถาโถมอย่างหนัก จนหลายหลายสำนักเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยที่เคย ประเมินว่าเศรษฐกิจไทย (จีดีพี) ในปีนี้จะขยายตัวได้ 2.8-3% ต้องปรับลดประมาณการลงอย่างถ้วนหน้าอยู่ในระดับติดลบ และมีแนวโน้มที่จะเป็นตัวเลขที่ลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ได้รวบรวมประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของแต่ละสำนักเศรษฐกิจ โดยมีรายละเอียดคือ

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ธปท. ปรับประมาณการจีดีพี ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจีดีพีปีนี้จะติดลบ 8.1% ซึ่งปัจจัยหลักคงหนีไม่พ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่รุนแรงทั่วโลก ส่งผลกระทบต่อภาคการส่งออก และภาคการท่องเที่ยวของไทย และดูเหมือนว่า วิกฤติครั้งนี้จะไม่หมดไปง่ายๆ

โดยผู้ว่าการ ธปท. ก็ออกมายอมรับว่า อาจจะต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปีกว่าเศรษฐกิจจะกลับไปใกล้เคียงกับก่อนวิกฤติโควิด-19

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)

สศค.มีมุมมองที่ไม่แตกต่างจากธปท.มากนัก โดยคาดว่า จีดีพี ไทยปีนี้จะติดลบ 8.5% ซึ่งถือเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ แม้แต่วิกฤติต้มยำกุ้ง เศรษฐกิจไทยก็ติดลบเพียง 7% กว่าเท่านั้น

โดยหลังจากนี้ไป สิ่งที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ไม่ติดลบไปมากกว่านี้ ก็คือ การท่องเที่ยวภายในประเทศของคนไทย การจับจ่ายใช้สอยของภาคเอกชน และการลงทุนของภาครัฐบาล

แต่ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องลุ้นว่า เมื่อโควิด-19 ยังรุนแรงทั่วโลก และส่งผลกระทบต่อหลายบริษัทที่ต้องปิดกิจการเพราะไม่สามารถส่งออกได้ ทำให้การเลิกจ้างมีตัวเลขที่พุ่งสูงขึ้น อาจจะเป็นแรงกดดันการใช้จ่ายภายในประเทศไม่ให้ขยายตัวอย่างที่คาดไว้

สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)

ภายหลังประกาศตัวเลขเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2/63 ที่ติดลบ 12% กว่า และมองว่า เป็นจุดที่ต่ำสุดแล้ว ในครั้งนี้ สศช.ยังได้ปรับคาดการณ์จีดีพีไทยปีนี้ใหม่ด้วย โดยให้ติดลบเพิ่มขึ้นเป็นลบ 7.3-7.8% จากเดิมที่คาดว่าจะลบ 5-6% เท่านั้น

ขณะที่โอกาสในการฟื้นตัวยังคงให้น้ำหนักกับปีหน้าเป็นสำคัญ โดยมองว่าการท่องเที่ยวจะเริ่มกลับมา เช่นเดียวกับการใช้จ่าย และการลงทุนภายในประเทศเป็นหลัก

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)

ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าไทย และสมาคมธนาคารไทย ซึ่งล่าสุด กกร. และประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยและได้ปรับประมาณการณ์ใหม่เป็นติดลบ 7-9% จากเดิมที่คาดว่าจะติดลบ 5-8% เท่านั้น

แม้ว่าขณะนี้ ทุกภาคส่วนจะประสานเสียงว่า เศรษฐกิจได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดแล้ว และแนวโน้มจะเริ่มฟื้นเป็นเครื่องหมายถูกหางยาว แต่ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอีกมากมายที่ยังต้องจับตาไม่ว่าจะการระบาดโควิด-19 ระลอกสอง เสถียรภาพการเมืองในประเทศ หรือแม้แต่สงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ที่พร้อมจะถวีความรุนแรงได้ทุกเมื่อ ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ต้องติดตามทั้งน้ี เพราะมีผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างแน่นอน และต้องยอมรับว่า ปีนี้ถือเป็นอีกปีที่คาดเดาได้ยากว่า สุดท้าย จีดีพีไทยปีนี้จะดิ่งไปที่เลขใด