จอร์จ ฟลอยด์ ดีหรือร้าย แต่ความยุติธรรมต้องมี - ไทยรัฐ

dihyangbagus.blogspot.com

ร่างของฟลอยด์ถูกทำพิธีฝังที่เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส ที่ซึ่งเขาเติบโตที่นั่น เมื่อ 9 มิ.ย. เคียงข้างหลุมฝังศพของนางลาร์เซเนีย มารดา ซึ่งเสียชีวิตเมื่อปี 2018 และฟลอยด์สักชื่อเล่นของเธอ “ซิซซี” ไว้ที่หน้าอก

ส่วนชอวินถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปี ขณะที่เพื่อนตำรวจอีก 3 นาย ก็ถูกตั้งข้อหาช่วยเหลือสนับสนุนการฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน มีโทษจำคุกถึง 40 ปีเช่นกัน โดยชอวินถูกตั้งวงเงินประกันสูงถึง 1-1.25 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ผู้สูญเสีย-นางร็อกซี วอชิงตัน และ ด.ญ.จิอันนา ภริยาและลูกสาวของจอร์จ ฟลอยด์ อยู่ในสภาพโศกเศร้าในพิธีศพของฟลอยด์ ที่โบสถ์ฟาวเทน ออฟ เพรส เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส โดยร็อกซีเรียกร้องความยุติธรรมให้สามี (เอเอฟพี)

ชีวิตของฟลอยด์มีสีสันน่าสนใจทั้งด้านดีและร้ายเฉกเช่นปุถุชนทั่วไป โดยหลังลืมตาดูโลกในปี 2516 ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนาไม่นาน มารดาก็พาเขาย้ายไปอยู่ที่ย่านเธิร์ด วาร์ด ในเมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส นางเวย์เนล เซกซ์ตัน ครูที่เคยสอนฟลอยด์ในชั้น ป.2 ขณะวัย 7 ขวบ เผยว่า ฟลอยด์มีความใฝ่ฝันจะเป็น “ผู้พิพากษาศาลสูง” ในสักวันหนึ่ง

เมื่อเข้าเรียนชั้นมัธยมปลายในโรงเรียนเจค เยตส์ ฟลอยด์ซึ่งเติบโตเป็นหนุ่มมีร่างกายใหญ่โตสูงถึง 193 ซม. ก็กลายเป็น “พี่ใหญ่” ของเด็กๆในท้องถิ่น เขาเป็นนักฟุตบอลผู้โดดเด่นของโรงเรียน ก่อนหันมาเล่นกีฬาบาสเกตบอลได้อย่างเก่งกาจเมื่อเข้าเรียนวิทยาลัย

“ฟิโลไนส์” น้องชายของฟลอยด์เผยว่าพี่ชายสอนน้องๆให้เป็นผู้ชายเต็มตัว เพราะผ่านชีวิตมานานและโชกโชนกว่า ในด้านกีฬาเขาเป็น “อสูรกาย” ในสนามแข่งขัน แต่ในชีวิตจริงมีอัธยาศัยใจคอดี ชอบพูดคุยกับผู้คนอย่างสุภาพนอบน้อม จนเพื่อนๆ และครอบครัวเรียกเขาว่า “Gentle Giant” (ยักษ์ใหญ่ผู้สุภาพ)

ต่อมาฟลอยด์ต้องลาออกจากวิทยาลัยกลางคันเพื่อช่วยแม่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว จากนั้นในทศวรรษที่ 1990 ก็ผันตัวเองเป็นนักดนตรีแนวฮิปฮอป ภายใต้ชื่อ “บิ๊กฟลอยด์” และประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง

แต่ฟลอยด์หนีไม่พ้นถูกดึงดูดเข้าสู่วังวนความรุนแรงของกลุ่มอาชญากรใต้ดินผิวสีในฮิวส์ตัน เขาถูกจับหลายครั้งในข้อหาลักขโมยและยาเสพติด เคยถูกจำคุก 4 ปี ในต้นทศวรรษ 2000 ในข้อหาลักทรัพย์โดยมีอาวุธ

หลังออกจากคุกฟลอยด์ก็หันเข้าหาศาสนา ไปสนิทสนมกับบาทหลวงในโบสถ์ย่านเธิร์ด วาร์ด ใช้ชื่อเสียงอื้อฉาวของตนในฐานะคนผ่านคุกตะราง และความหลงใหลในตัว “เลบรอน เจมส์” ซุปเปอร์สตาร์บาสเกตบอลชื่อดัง ชักชวนให้พวกเด็กหนุ่มๆไปเข้าโบสถ์ โดยฟลอยด์ทั้งสอนศาสนาและบาสเกตบอลให้เด็กไปพร้อมกัน

ในปี 2014 ฟลอยด์ย้ายไปอยู่เมืองมินนี-แอโพลิส เพื่อหนีความซ้ำซากจำเจในชีวิตและหางานใหม่ที่มั่นคงขึ้น เพื่อช่วยนางร็อกซี วอชิงตัน ภรรยา หาเงินเลี้ยงลูกสาวของทั้งคู่ชื่อ “จิอันนา” วัย 6 ขวบ โดยไปทำงานเป็นคนขับรถให้นิกาย “Salvation Army” หรือทหารของพระคริสต์ จากนั้นไปเป็นการ์ดคุมบาร์แห่งหนึ่ง แต่บาร์ต้องปิดตัวลงเพราะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เขาตกงานก่อนเสียชีวิต

ชาวบ้านย่านเธิร์ด วาร์ด แสดงความเคารพและไว้อาลัยให้ฟลอยด์ ด้วยการวาดภาพจิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ 2 ภาพ ภาพหนึ่งให้ชื่อว่า “บิ๊กฟลอยด์” มีปีกเป็นเทวดาและมีรัศมีรอบศีรษะ

ฮีโร่ชุมชน-จิตรกรรมฝาผนังขนาดใหญ่ของจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำที่ถูกตำรวจผิวขาวใช้เข่ากดคอจนตาย ซึ่งมีผู้วาดบนกำแพงในย่านเธิร์ด วาร์ด เมืองฮิวส์ตัน รัฐเท็กซัส สถานที่ฟลอยด์เติบโต โดยวาดให้เขามีรัศมีรอบศีรษะและมีปีกเป็นเทวดา (เอเอฟพี)

ฟลอยด์เคยโพสต์ในอินสตาแกรมเมื่อปี 2560 ว่า “ผมมีข้อบกพร่องและมีมลทิน ไม่ได้ดีกว่าคนอื่นๆ” พร้อมเตือนเรื่องความรุนแรงจากการใช้อาวุธปืนที่เกิดขึ้นซ้ำซาก บอกว่าเขาและพระเจ้ารักทุกคน

ส่วนนางร็อกซี ภรรยาของฟลอยด์กล่าวว่าต้องการความยุติธรรมให้สามี เพราะเขาเป็นคนดี ไม่ว่าใครจะคิดยังไง เขาก็เป็นคนดีสำหรับเธอและลูกเสมอ

และไม่ว่าฟลอยด์จะเป็นคนดีหรือเลวร้าย เขาก็มีสิทธิ์ได้รับความยุติธรรม!

บวร โทศรีแก้ว

Let's block ads! (Why?)